เชื่อว่าวินาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักรายการ The Mask Singer ทางช่อง Workpoint เป็นแน่แท้ เพราะรายการนี้ต้องเรียกว่าเรทติ้งเขามาแรงจริง ๆ ด้วยคอนเซ็ปท์ของรายการ ที่โดนใจคนทั้งประเทศ และสามารถรับชมได้ทุกเพศทุกวัยอีกด้วย นอกจากนี้ยังแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์รายการที่ครบทุกรสสดทุกอารมณ์จริง ๆ โดยมีการแพ้มีการชนะ มีการแข่งขัน มีรอยยิ้ม มีคำชื่นชม มีข้อสงสัย ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น การลุ้น จุดพีค ล้วนแล้วแต่เป็นเสน่ห์ล้วน ๆ ของรายการนี้ที่หลายคนอดพูดถึงไม่ได้เลยครับ

 

หากเปรียบรายการนี้เป็นเหมือนธุรกิจหนึ่ง ผมเชื่อว่านักธุรกิจหลายคนต้องได้แนวคิดอะไรดี ๆ เพื่อมาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจของตนแน่ ๆ ครับ ซึ่งผมจะมาแตกแนวคิดที่เชื่อว่าสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างแน่นอนครับ

 

ผมจะเปรียบเทียบง่าย ๆ แบบนี้ก่อนนะครับโดยผู้ชมทางบ้านและผู้ชมในห้องส่งก็เปรียบเสมือนเป็นลูกค้า ส่วนผู้ใส่หน้ากากนักร้องเปรียบเหมือนเป็นสินค้า และทีมงานก็เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนธุรกิจเหมือนเป็นผู้บริหารทำการตลาดครับ  เราจะมาโฟกัสเรื่องนี้กันไปทีละจุดผ่านรายการ The Mask Singer กับ 15 แนวคิดธุรกิจกันครับ

 

1.การใช้ Facebook live เพิ่มคนดู

 

Facebook live เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ รายการ The Mask Singer นำมาใช้ในการเพิ่มคนดูอีกช่องทางหนึ่งซึ่งทำให้สามารถประเมินจำนวนผู้เข้าชมและการได้เห็นการแสดงความคิดเห็นในช่องคอมเม้นท์ ได้รับแจ้งปัญหาเรื่องสัญญาณการรับชม ความชัดเจนต่าง ๆ ของผู้เข้าชม ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมและสามารถแก้ไขปัญหาในเฉพาะหน้าได้ด้วย ทำให้รายการมีความสนุกมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลาย ๆ ธุรกิจก็เริ่มหันมาใช้ Facebook live กันมากขึ้นเช่นกัน

 

2.ฉีกกรอบแนวคิดรายการร้องเพลงประเภทเดียวกัน

 

ปัจจุบันมีรายการร้องเพลงหลายรายการ ซึ่งมีรูปแบบคล้าย ๆ กันไม่หวือหวาเท่าที่ควร แต่สำหรับ The Mask Singer นับเป็นการฉีกกรอบแนวคิดรายการร้องเพลงประเภทเดียวกันไปเลย ด้วยรูปแบบการแต่งตัวประหลาด ๆ ของนักร้อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่แต่ก็โดนใจผู้ชมไม่น้อยเลยทีเดียว

 

3.คอสตูมการแต่งตัวซึ่งเปรียบเหมือนเป็นแพ็คเก็จสินค้า

ถ้าเปรียบคอสตูมการแต่งตัวของหน้ากากนักร้องแล้ว ทำให้นึกถึงแพ็คเก็จสินค้าที่ต้องมีความแปลกแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ และต้องสามารถบอกที่มาของแพ็คเก็จสินค้าได้ด้วยว่าอยู่ภายใต้แนวคิดอะไร

 

 

4.การมีส่วนร่วมของคนให้คะแนน

ซึ่งคนให้คะแนนก็เปรียบเหมือนเป็นว่าที่ลูกค้าในทางธุรกิจนั่นเอง รายการ The Mask Singer มีใช่นำเสนอเพียงฝ่ายเดียวแต่ยังให้ผู้ชมทางบ้านและผู้ชมในห้องส่งมีส่วนร่วมในการให้คะแนนด้วย ซึ่งหลาย ๆ ธุรกิจก็มีการนำแนวคิดการมีส่วนร่วมของลูกค้ามาใช้และเกิดผลดีตามมาในเรื่องของยอดขาย

 

5.สร้างความอยากรู้อยากเห็นตลอดรายการจนกว่าจะเฉลย

The Mask Singer เรียกว่าตรึงคนดูตลอดรายการไม่ว่าจะต้องใช้เวลากี่สัปดาห์ก็ตาม ด้วยการสร้างความอยากรู้อยากเห็นตลอดรายการจนกว่าจะเฉลย ทำให้ผู้ชมจดจ่ออยู่กับความอยากรู้อยากเห็นไปจนถึงช่วงท้ายของรายการ ในทางธุรกิจของคุณนั้นถ้าสามารถตรึงลูกค้าให้ฟังคุณภาพของสินค้าด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนกระทั่งปิดการขาย โอกาสที่จะขายได้ก็มีมากขึ้นครับ

 

6.หน้ากากนักร้องมีเรื่องราวมีที่มา

จะสังเกตได้ว่าหน้ากากนักร้องแต่ละท่านจะมีเรื่องราว มีชื่อเสียง ที่ทำให้คนระลึกถึง ว่าต้องเป็นซูเปอร์สตาร์คนนั้นคนนี้เป็นแน่แท้ การมีเรื่องราวจะทำให้ผู้คนจดจำได้ สินค้าของคุณก็เช่นกันหากมีเรื่องราวความเป็นมาก็จะทำให้ลูกค้าจดจำได้อย่างแน่นอน

 

7.สังเกตลักษณะท่าทางการแสดงออกของหน้ากากนักร้อง

ในรายการ The Mask Singer คุณจะเห็นเหล่าคอมเม้นท์เตเตอร์ทั้ง 7 ที่ต้องคอยสังเกตท่าทางของหน้ากากนักร้องและประเมินให้ได้ว่าเขาหรือเธอเป็นใครกันแน่ ซึ่งแม้แต่จุดเล็กน้อยเช่นการผายมือ การโค้ง ต่าง ๆ นี้ก็สามารถเป็นแนวทางสืบค้นไปหาตัวนักร้องได้ ในทางธุรกิจก็เช่นกัน การใช้ประโยชน์ของสินค้าใช้แล้วได้อะไรมีประโยชน์ตรงไหน การที่ลูกค้ามองเห็นก็ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

 

8.การเตรียมความพร้อมของหน้ากากนักร้องเต็มร้อย

หน้ากากนักร้องทุกคนมีการเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของชุด ความพร้อมในการตอบคำถามที่มีโจทย์ว่าไม่ให้เขาจับได้ว่าเป็นใคร ซึ่งต้องใช้ไหวพริบเป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องมีการเตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดี ในทางธุรกิจก็เช่นกันคุณจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างมีคุณภาพให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณ และพร้อมตอบข้อสงสัยของลูกค้าได้ทุกข้อด้วย การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าไม่น้อยเลย

 

9.มีการนำเสนอเพลงที่มีคุณภาพ

หน้ากากนักร้องทุกคนล้วนคัดสรรเพลงของตนมาเป็นอย่างดี ชนิดที่ว่าเพลงที่ว่าร้องยากที่สุดก็นำมาร้อง เพื่อถึงเวลาแสดงก็เต็มที่และใส่พลังลงไปทำให้ผู้ชมถึงกลับอ้าปากค้างในท่าทางลีลาและน้ำเสียงของนักร้องแต่ละคน ในการนำเสนอสินค้าก็เช่นกันคุณจะต้องเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้ลูกค้าชนิดที่ว่าเกินความคาดหวังของลูกค้าด้วยเช่นกัน

 

10.มีการคัดเลือกตัวหน้ากากนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์

ทางรายการมีการคัดเลือกตัวหน้ากากนักร้องมาเป็นอย่างดี โดยเน้นไปที่ความเป็นซูเปอร์สตาร์ของเขาเหล่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาต้องมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ในธุรกิจของคุณถึงแม้ว่าจะมีสินค้าที่หลากหลายแต่ต้องมีสินค้าบางตัวที่โดดเด่นสร้างชื่อเสียงชนิดที่หาที่ไหนก็ไม่ได้เช่นกัน

 

11.มีการทำงานกันเป็นทีม

ในรายการจะเห็นว่ามีการทำงานเป็นทีมอย่างลงตัว โดยเฉพาะทีมคอมเม้นท์เตเตอร์และพิธีกรที่เข้าขากันเป็นอย่างดี ทำให้รายการมีความสนุกต่อเนื่อง ซึ่งทีมงานนี้ก็ผ่านการคัดตัวระดับแนวหน้าในวงการเพลงมาทั้งนั้น เช่นกันในธุรกิจหากคัดทีมงานที่มีความสามารถตรงตามที่ธุรกิจต้องการได้ก็จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เดินไปข้างหน้าอย่างก้าวไกล

 

12.มีการนำเสนอถ้อยคำของคอมเม้นท์เตเตอร์

ในระหว่างที่หน้ากากนักร้องกำลังร้องเพลงนั้น ทางรายการจะมีขึ้นถ้อยคำของบรรดาคอมเม้นท์เตเตอร์ ซึ่งบางทีท่านผู้ชมอาจจะไม่ได้ยิน ซึ่งคำคอมเม้นท์เหล่านี้จะทำให้รู้ว่าแต่ละท่านคิดอย่างไร สงสัยอย่างไร ตีความผิดหรือไม่ ซึ่งถ้าคุณรู้ความคิดของลูกค้าได้แบบนี้ คล้ายเดาความคิดที่ลูกค้ามีต่อสินค้าของคุณ ก็จะช่วยให้คุณปรับปรุงแก้ไขสินค้าและบริการให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด

 

13.เชื่อมโยงตัวของหน้ากากนักร้อง

ในระหว่างที่หน้ากากนักร้องอยู่บนเวทีนั้น คอมเมนต์เตเตอร์ทั้ง 7 จะเชื่อมโยงทุกสิ่งที่เห็นจากประสบการณ์ของตนที่เคยมีต่อนักร้องคนนั้น ซึ่งจะถูกหรือผิดก็ค่อยไล่เรียงกันไปจนใกล้ความจริงมากที่สุด การตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าก็เช่นกันพวกเขาจะเชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่เคยใช้สินค้าประเภทเดียวกันนั้นมา คุณจะต้องเข้าใจถึงความรู้สึกและความต้องการของลูกค้าด้วยว่าเพราะเหตุใดเขาถึงชอบหรือไม่ชอบในสินค้าของคุณ นั่นอาจตัดสินมาจากประสบการณ์เดิมของลูกค้าก็เป็นได้

 

14.คุณอยากเห็นใครถอดหน้ากาก

เป็นการโยนคำถามให้ผู้ชมมีอำนาจในการตัดสิน ซึ่งถือว่าให้ผู้ชมเป็นคนเลือกเอง ซึ่งแน่นอนว่าหากผู้ชมเลือกเองนั่นเป็นเพราะเขายอมรับและข้อโต้แย้งจะน้อยมาก ในการเลือกสินค้าของลูกค้าก็เช่นกัน คุณอาจใช้แนวคิดนี้ในการให้ลูกค้าเป็นคนตัดสินใจเองด้วยคำถามที่ต้องเตรียมมาก่อนด้วย

 

15.ให้โอกาสในการซักถามหน้ากากนักร้อง

นอกจากจะวัดกันด้วยน้ำเสียงท่าทางแล้ว ทางรายการยังมอบทางเลือกในการที่จะคาดเดาหน้ากากนักร้องได้มากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้คอมเมนต์เตเตอร์ถามคำถาม ที่จะสามารถเป็นแนวทางในการประมวลผลคำตอบออกมาได้ใกล้เคียงและถูกต้องมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าถ้าสินค้าของคุณไขทุกคำถามของลูกค้าได้โอกาสขายก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน

 

จะเห็นได้ว่ารายการ The Mask Singer ให้แนวคิดในการทำธุรกิจระดับท๊อปเลยทีเดียว ที่ใครลองนำไปปรับใช้ในธุรกิจของตนแล้ว ผมเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ