หลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็น Line Sticker ซีรี่ย์ของตำรวจน่ารัก ๆ กันมาบ้างแล้ว และหลายคนคงมีโอกาสได้รู้จักกับผู้อยู่เบื้องหลังตำรวจน้อย ๆ เหล่านี้

ทว่ายังมีอีกหลายท่านครับที่ยังไม่มีโอกาสผู้อยู่เบื้องหลังของ Sticker Line ตำรวจที่เราได้ส่ง Chat หากัน

ผู้กองเบนซ์ ตำรวจไทย ที่ผมเฝ้าติดตามเป็นแฟนคลับดูความเคลื่อนไหว และพัฒนาการที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยความที่เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้ม ยินดีแบ่งปัน แต่ภายในแข็งแกร่งด้วยความเป็นชายชาติทหารเสือราชินี

เมื่อสบโอกาสผมจึงได้มีโอกาสนำเรื่องราวความเป็นมาของเถ้าแก่ใหม่ ผู้กองเบนซ์ มาบอกเล่าเพื่อเป็น “แรงบันดาลใจ” และ “แนวคิด แนวทาง” ในการตั้งต้นทำธุรกิจ

คนเราไม่ว่าจะอยู่ในสถานะทางสังคมอย่างไร หน้าที่ความรับผิดชอบจะมากน้อยขนาดไหน หากมีความตั้งใจและจริงใจที่จะ “ประสบความสำเร็จในชีวิต” ไม่ว่าจะเจอปัญหามาน้อยขนาดไหน ก็ย่อมที่จะ “มีพลังศรัทธา” ที่จะนำพาตัวเองไปถึงเป้าหมายเหล่านั้นได้

และนี่คือตัวอย่าง “ตำรวจน้ำดี” และ “เถ้าแก่ใหม่น้ำงาม” ที่ผมอยากให้ทุกท่านได้นำเรื่องราวเหล่านี้ไปเรียนรู้เป็นแบบอย่างครับ

มาทำความรู้จักกับ ผู้กองเบนซ์ กันเลยดีกว่าครับ

สวัสดีครับ ผม ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม ตำแหน่งปัจจุบัน รองสารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร) เพื่อน ๆ เรียกผมว่า “ผู้กอง เบนซ์” ครับ

ชีวิตนายตำรวจผู้กล้าหาญ และ เสียสละ

ผมเป็นตำรวจมาตั้งแต่อายุ 19 ปี หลังจากจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจก็เลือกไปลงที่ สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นพนักงานสอบสวนโรงพักครบ 2 ปี ก็ขอย้ายมาเป็นตำรวจพลร่ม ก่อนสมัครไปรบที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลาดตระเวนอยู่ในเขื่อนบางลาง อ.บังนังสตา จ.ยะลา อยู่ 2 ปี  หลังจากนั้นถูกคัดเลือกให้เป็นทหารเสือราชินี (เป็นตำรวจคนเดียวที่ได้ทำหน้าที่ทหารเสือในจำนวน 18 คน (ทหารบก 16, ทหารเรือนาวิกโยธิน 1,ตำรวจ 1) ปฏิบัติหน้าที่ทหารเสือ 2 วาระ (วาระละ 3 เดือน)  ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองสารวัตรปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยอยู่ที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่

 

จัดเวลาว่างมานั่งทำ Line Sticke

ผมเริ่มฝึกวาดสติ๊กเกอร์ไลน์ตอนปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ จ.ยะลา  ตอนนั้นจำได้ว่า ผมเริ่มสังเกตเห็นสติ๊กเกอร์ที่ใช้ส่งกันในแอพลิเคชั่นไลน์  ซึ่งจากเดิมที่มีแต่ตัวการ์ตูนดังๆ ที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว อย่างเช่น ดราก้อนบอล โคนัน ฯลฯ  ปกติผมเป็นคนชอบอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนชาวบ้าน การที่เรามีสติ๊กเกอร์ไลน์แบบที่ต้องเสียเงินโหลด  ผมถือว่าเป็นเรื่องเท่เล็กๆ จึงเสียเงินโหลดสติ๊กเกอร์ไลน์เก็บไว้หลายชุด

 

ช่วงนั้นเริ่มสังเกตเห็นว่า ตัวการ์ตูนแปลกๆ ที่ไม่ใช่การ์ตูนที่มีชื่อเสียงเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น ผมเลยคิดไปเล่นๆ ว่า ถ้าหากเราสามารถส่งการ์ตูนที่เราวาดเข้าไปขายเป็นสติ๊กเกอร์ในไลน์ได้ คงจะดีไม่น้อย อย่างน้อยก็คงมีรายได้เสริมหลักพันต่อเดือน แต่ก็ไม่ได้ขวนขวายหาวิธีการ ได้แต่เก็บความคิดนี้ไว้เป็นไอเดีย

จนมาวันหนึ่งเริ่มเห็นสติ๊กเกอร์ไลน์หน้าตาบ้านๆ ที่สำคัญคือเป็นภาษาไทยปรากฏขึ้นใน LINE STORE เราก็เลยรู้ทันทีเลยว่า เฮ่ย! ไอ้สิ่งที่เราคิดไว้มันทำได้แล้วนี่

หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาว่างๆ หลังจากการลาดตระเวนศึกษาทั้งวิธีการวาด วิธีการลงสี วิธีสร้างภาพวาดให้กลายเป็นภาพดิจิตอล รวมถึงศึกษาช่องทางในการส่งผลงานให้ LINE พิจารณา ศึกษาการตลาดเบื้องต้น ก่อนตัดสินใจสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ชุดแรกขึ้นชื่อว่าชุด “ชีวิตประจำวันของตำรวจน้อย”

แม้ว่าจะส่งไปแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะผ่านง่ายๆ เพราะหลักเกณฑ์การพิจารณาของ LINE นั้น ถือว่าเข้มงวดพอสมควร อีกทั้งในสมัยนั้น (ปี 57-58) เจ้าหน้าที่พิจารณาสติ๊กเกอร์ยังมีน้อย และเป็นคนญี่ปุ่นล้วนๆ พอสติ๊กเกอร์เราเป็นภาษาไทยก็ต้องเสียเวลาในการแปลถ้อยคำในสติ๊กเกอร์อีก  ปรากฏว่ากว่าที่สติ๊กเกอร์ชุดแรกจะสามารถวางขายได้ ก็ใช้เวลาพิจารณานานถึง 8 เดือน

พอเริ่มวางจำหน่ายใน LINE STORE ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม จนสามารถสร้างรายได้ได้ถึงหกหลักในเดือนที่ 4 ของการวางขาย หลังจากนั้นผมก็ทำ Collection เกี่ยวกับตำรวจออกมาอีก 4 ชุด รวมเป็น 5 ชุดชื่อ “เรื่องวุ่นๆของตำรวจหญิง” “เรารักด่านตรวจ” “ตชด. ตำรวจชั้นดี” และล่าสุด “ตำรวจดุ๊กดิ๊ก” ซึ่งเป็น Animation Sticker

ทุกวันนี้ผมต่อยอดทักษะการสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ไปเป็นคอร์สออนไลน์ ซึ่งเปิดสอนมาแล้ว 5 รุ่น (สอนผ่านกลุ่มลับเฟสบุค 4 รุ่น และสอนผ่านเว็บไซต์ SkillLane.com อีก 1 รุ่น) มีนักเรียนรวม 2,000 กว่าคน ลูกศิษย์หลายคนมีรายได้หลักแสนหลักล้านจากสติ๊กเกอร์ไลน์

 

ทำไมต้องเป็น Line Sticker

ผมเริ่มต้นด้วยการคิดว่ามันเป็นโอกาสและมันเป็นไปได้ ที่สำคัญคือเชื่อมั่นว่าตัวเองสามารถทำได้ แม้ไม่มีทักษะในการวาดภาพดิจิตอลมาก่อน สาเหตุที่เลือกทำสติ๊กเกอร์ไลน์เพราะมันเป็นงานที่ไม่กระทบงานประจำของเรา เราสามารถใช้เวลาว่างแค่วันละ 1-2 ชั่วโมงในการหัดวาด สร้างสรรค์ผลงาน

จนกระทั่งสำเร็จได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนแม้แต่บาทเดียว สิ่งที่ต้องลงทุนคือความตั้งใจและเวลา  เมื่อเรามีทักษะแล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องยาก

 

ไม่เคยวาดการ์ตูน เอาชนะปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร

ผมมองว่าอุปสรรคส่วนใหญ่ของผมคือการต่อสู้กับความขี้เกียจของตัวเองมากกว่า เพราะเราไม่มีทักษะในการวาดภาพเลย  ทุกย่างเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งหมด ยอมรับว่ามีเบื่อบ้างท้อบ้าง แต่ก็อดทนฝึกฝนไป ส่วนที่วาดยากที่สุดสำหรับผมคือตา และมันเป็นส่วนสำคัญที่สื่ออารมณ์ให้ภาพการ์ตูนทุกภาพ  แม้จะวาดทั้งตัวได้สวยขนาดไหน แต่ถ้าวาดดวงตาไม่ดี ภาพทั้งภาพก็จะขาดการสื่ออารมณ์และความหมาย

ฉะนั้นถ้าถามว่าส่วนไหนเป็นอุปสรรคที่สุด ก็ตอบว่าตอนเริ่มวาดนี่แหละ

นอกจากตอนเริ่มวาดแล้ว ตอนที่เริ่มวาดในคอม (ภาษากราฟฟิกเรียกว่าการ Drafting) และการลงสีในคอมก็เป็นอุปสรรคเช่นกัน แต่ก็เหมือนกัน มันเป็นทักษะ เพราะฉะนั้น “ฝึกได้” ผมก็แค่ไม่ย่อท้อกับการฝึก ทนฝืนฝึกไปลุยไป พอทักษะมันเกิด ก็ไม่มีอะไรยาก

จะมีบ้างก็โดนลูกน้องแซวว่าหัวหน้ามานั่งวาดการ์ตูนอะไรไร้สาระ แต่คือเราไม่สนใจ เพราะเราเข้าใจดีกว่าเขาไม่ได้รู้จักโอกาสนี้เหมือนกับเรา และก็ป่วยการถ้าจะนั่งอธิบายให้ฟัง

มีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้คนรอบข้างเข้าใจในสิ่งที่เราทำ ก็คือทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ

 

 

ทำอย่างไรให้ Line ชุดตำรวจ จึงโด่งดัง ขายดี

ต้องบอกว่าความสำเร็จของสติ๊กเกอร์ไลน์ตำรวจไม่ใช่ความบังเอิญ  ช่วงแรกๆ ที่ผมทำสติ๊กเกอร์ไลน์ ผมทำชุดหมาไซบีเรียนฮัสกี้ด้วย ด้วยแนวคิดที่ว่า “ทุกคนชอบหมา” คงจะโหลดกันถล่มทลาย ที่ไหนได้ เรามารู้ตอนหลัง หลังจากที่ได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการตลาดว่า

“ถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือคนทุกคน หมายถึงคุณไม่มีกลุ่มเป้าหมายเลย”

… นั่นคือคำอธิบายที่ว่าทำไมสติ๊กเกอร์ไลน์ชุดหมาไซบีเรียนถึงขายไม่ออก

ด้วยความที่ตัวเองเป็นตำรวจ  กลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกจึงหนีไม่พ้นอาชีพตำรวจ  เพราะเราเข้าใจกลุ่มอาชีพนี้มากที่สุด  เข้าใจถึงระดับแนวคิด  เรารู้วิถีชีวิตตั้งแต่ตื่นยันหลับ  เราเข้าใจความสุขความทุกข์ของพวกเขา  เข้าใจภาษาพวกเขา  จึงทำให้เราสามารถสร้างสรรค์สติ๊กเกอร์ออกมาได้ตรงใจ

ตัวอย่างเช่น คำว่า “ว.2 ว.8” ถ้าตำรวจเห็นหรือได้ยินจะเข้าใจทันทีว่าหมายถึง “รับทราบข้อความที่ส่งมาแล้ว” ในขณะที่คนทั่วไปจะไม่รู้  หรือคนทั่วไปเคยได้ยินจากในหนังว่า “ว.1 เรียก ว.2” แต่ความเป็นจริงแล้วตำรวจเขาไม่พูดกันแบบนี้ อันนี้เราก็ไม่เอามาใช้ในสติ๊กเกอร์ของเรา

ลักการสำคัญในการสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ก็คือ “ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสติ๊กเกอร์ของเราเป็นตัวแทนการสื่อสารของเขา”

จากตำรวจสติ๊กเกอร์ไลน์ที่สร้างมาเพื่อตำรวจทุกคน  เจาะไปเป็นกลุ่มตำรวจจราจร  และมาถึงตระเวนชายแดน  ผมใช้หลักการเดียวกันนี้ทั้งหมด

 

ตอนนี้มี Line Sticker และ คอร์สัมมนาอะไรบ้างครับ

มีสติ๊กเกอร์ไลน์ของตัวเอง 5 ชุด คือ

1.ชีวิตประจำวันของตำรวจน้อย

2.เรื่องวุ่นๆ ของตำรวจหญิง

3.เรารักด่านตรวจ

4.ตชด.ตำรวจชั้นดี

5.ตำรวจดุ๊กดิ๊ก

มีคอร์สออนไลน์สอนสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ 2 รูปแบบ คือ

1.สอนในกลุ่มลับเฟสบุค 4 รุ่น (จะเปิดรุ่นสุดท้ายประมาณเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2560)

2.สอนผ่านเว็บไซต์ Taokaemaischool.com และที่ Skillane.com

 

ทำอย่างไรให้ Sticker line มีการโหลดเยอะ ๆ

สติ๊กเกอร์ไลน์เป็นสินค้าที่ตอบสนองอารมณ์ แสดงความมีเอกลักษณ์ และแสดงรสนิยม หากสามารถสร้างให้ตรงเพียงกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มความสนใจเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ ก็ย่อมมีโอกาสที่จะยึดหัวหาดเป็นเจ้าตลาดได้

สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ผิดพลาดและไม่สามารถสร้างรายได้จากสติ๊กเกอร์ไลน์ได้ เพราะไม่คำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างจริงจัง ชอบคิดแต่จะทำสติ๊กเกอร์ให้สวย ให้น่ารัก เป็นอันดับแรก แล้วค่อยมาหาตลาด หากกลับมุมคิดว่าสติ๊กเกอร์ไลน์ไม่ใช่แค่การ์ตูน แต่เป็นตัวแทนการสื่อสาร ผมเชื่อว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ทำให้ผิดหวัง

 

มองอนาคตธุรกิจนี้ไว้อย่างไร

สถิติเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 ระบุว่าคนไทยใช้แอพพลิเคชัน LINE ในการสื่อสารมากกว่า 50 ล้าน account  และการส่งข้อความ 10 ครั้ง มีการส่งสติ๊กเกอร์ไลน์ถึง 5 ครั้ง นั่นหมายความว่ายังมีพื้นที่เหลืออีกมากในตลาดสติ๊กเกอร์ไลน์ อีกทั้งผลงานที่สร้างสรรค์เข้าไปจำหน่ายใน LINE STORE นั้น ยังถือเป็นลิขสิทธิ์ของผู้วาด ไม่ใช่ลิขสิทธิ์ของ LINE แต่ประการใด LINE เป็นเพียงช่องทางในการจัดจำหน่าย  ฉะนั้นแม้ในอนาคต หากความนิยมในแอพพลิเคชัน LINE จะลดลงตามวัฏจักรของธุรกิจก็ตาม

สติ๊กเกอร์ที่เป็นผลงานของเราก็สามารถนำไปวางจำหน่ายในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่อาจเข้ามาแทนที่ LINE ได้ ซึ่งแนวโน้มเรื่องตลาดสติ๊กเกอร์ในโซเชียลมีเดียแอพลิเคชันตัวอื่นๆ ก็เริ่มมีให้เห็นแล้วเช่น WeChat ซึ่งเคยออกแคมเปญจ์ Local Artist ให้นักวาดส่งผลงานเข้าประกวดเมื่อไม่นานมานี้

หากเพื่อน ๆ สนใจจะทำต้องเริ่มอย่างไร

ง่ายมาก เพราะ Barrier to entry หรือแนวกันชนในการเริ่มธุรกิจไม่มีเลย ไม่ว่าใคร ก็สามารถส่งผลงานไปให้ LINE พิจารณาได้ที่ http://creator.line.me ซึ่งสามารถเลือกหน้าเว็บเป็นภาษาไทยได้ ข้อมูลรายละเอียดในเว็บไซต์ดังกล่าวก็เพียงพอต่อการเริ่มต้น ทุกคนสามารถเข้าไปดูข้อกำหนด กฎเกณฑ์ และวิธีการต่างๆ ได้ใน https://creator.line.me/th/guideline/sticker/

 

หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจของผู้กองเบนซ์คืออะไร

ตั้งหลักให้ดี = เมื่อมีความเชื่อแล้ว จงมั่นคงต่อสิ่งที่จะลงมือทำ ไม่สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยทำสิ่งที่เรากำลังจะทำ

วิธีต้องใช่ = หาความรู้ในสิ่งที่จะลงมือทำจนมั่นใจเพียงพอว่ามีความเป็นไปได้

มองไปที่ผลลัพธ์ = เล่นไม่เลิก ไม่สำเร็จไม่หยุดลงมือ

กระชับขั้นตอน = ตัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไป เหลือไว้แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ

ลองก่อนเดี๋ยวรู้เอง = ลงมือทำให้รู้ทะลุปรุโปร่ง จนถึงจุดแตกหักทางความคิด สามารถสรุปออกมาเป็นสูตรความสำเร็จที่ชัดเจน

 

รากหญ้าทางความคิด และธุรกิจ ในมุมมองของผู้กองคืออะไร

ผมทำธุรกิจโดยอาศัยหลัก “3 รู้” ที่เรียนมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

รู้ตน : สิ่งที่ต้องคิดอย่างแรกคือ “รู้ตน” เราเป็นใคร เราทำอะไร ธุรกิจของเราเกิดขึ้นมาบนโลกเพื่ออะไร

รู้คน : ต่อมาก็คือ “รู้คน” เราทำธุรกิจนี้เพื่อใคร พวกเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน ต้องการอะไร มีวิถีชีวิตยังไง สื่อสารหรือใช้ภาษากันแบบไหน  พวกเขาจะได้รับคุณค่าหรือประโยชน์อะไรจากสิ่งที่เราทำ

รู้งาน : สุดท้ายคือ “รู้งาน” เราจะทำยังไงให้ธุรกิจของเรามีคุณค่าที่สุด  เป็นธรรมที่สุด  เข้าไปเปลี่ยนชีวิตกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด  และครองใจพวกเขาให้ได้นานที่สุด

 

อนาคตธุรกิจของผู้กองวางไว้อย่างไร

สำหรับตัวสติ๊กเกอร์ไลน์ที่วางจำหน่ายอยู่ก็ยังคงเป็น Passive Income ที่ทำเสร็จครั้งเดียว มีตัวเลขไหลเข้าบัญชีตลอดเพียงพอต่อการผ่อนบ้าน ผ่อนรถได้แบบสบายๆ ภายในปี 2560 นี้อาจออกคอลเลคชันตำรวจดุ๊กดิ๊กเพิ่มเติมอีก

แต่แผนที่วางไว้หลังจากนี้จะเน้นไปที่การให้ Know-How ในการทำธุรกิจสติ๊กเกอร์ไลน์มากกว่า  ในปีนี้มีแผนที่จะเปิดคอร์สสอนสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ออนไลน์อีก 1 รุ่น ก่อนที่จะมอบหน้าที่นี้ให้ศิษย์เอกชื่อคุณกอล์ฟ ซึ่งเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกและมีรายได้จากสติ๊กเกอร์ไลน์เดือนละหกหลักต่อเนื่องยาวนาน

ส่วนตัวผมจะเปลี่ยนตลาดไปให้ความรู้เรื่องการทำธุรกิจในทักษะอื่นๆ  เพราะระหว่างที่ออกมาสอนสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ก็มีคนเรียกร้องให้สอนทางธุรกิจเช่นการพูดหน้ากล้อง การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ หรือการ Personal Branding  ซึ่งถือว่าได้ค้นพบช่องทางในการสร้างคุณค่าเพิ่มเติมอันต่อยอดมาจากจุดเริ่มต้น คือ สติ๊กเกอร์ไลน์

 

ให้แรงบันดาลใจ ฝากข้อคิดให้กับเพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่ครับ

ตั้งหลักให้ดี วิธีต้องใช่ มองไปที่ผลลัพธ์ กระชับขั้นตอน ลองก่อนเดี๋ยวรู้เอง นั้น

ผมให้ความสำคัญกับข้อสุดท้ายมากที่สุด คือ “ลองก่อนเดี๋ยวรู้เอง” สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่คิด  แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ลงมือทำ

ตามหลัก “อิทธิบาท 4” ซึ่งเป็นหลักแห่งความสำเร็จที่พระพุทธองค์ทรงสอนนั้น

ฉันทะเป็นสารตั้งต้น นักพัฒนาตัวเองเรียกฉันทะด้วยคำใหม่ว่า Passion  คนส่วนใหญ่เปี่ยมไปด้วย Passion แต่ขาด Action หรือการลงมือทำ  โบราณาจารย์แปลคำว่า

วิริยะ เป็น “ความเพียร” ทำให้มันดูเหนื่อยเกินไป ความจริงแล้ววิริยะไม่มีอะไรมากกว่าการลงมือทำ ถ้าเพียงแค่ทุกคนสามารถเปลี่ยน Passion เป็น Action หรือเปลี่ยนฉันทะเป็นวิริยะได้ เพียงเท่านี้ เราก็สำเร็จมาได้สองในสี่ส่วนแล้ว เหลือแค่

จิตตะ หรือความเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ และ

วิมังสา หรือการตัดสิ่งที่ไม่ใช่ออกไป องค์ประกอบของความสำเร็จก็จะบริบูรณ์

ฉะนั้นแล้ว เมื่อเราอยากทำอะไรจนเกิด Passion รัก ชอบ เชื่อ หลงใหลในสิ่งใดแล้ว ขอเพียงลงมือทำให้ครบกระบวนการ ความสำเร็จไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้เลยจริงๆ

 

มอบโปรโมทชั่นดี ๆ ให้กับเพื่อนเถ้าแก่ใหม่

ส่วนลดพิเศษ 1,000 บาท ทุกคอร์สที่ผมสอนเอง ไม่รวมคอร์สออนไลน์เพียงแจ้งทีมงานว่า รู้จักผมจากเว็บ Taokaemai

 

บริการอบรม ให้คำปรึกษา Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัวเปิดร้านขายอะไรดี