แนวความคิดจากมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ คนหนึ่ง จะเพ้อฝันถึงการลงทุนไปได้อย่างไร ในเมื่อค่าใช้จ่ายในทุกเดือนวิ่งชนเกือบเท่าเงินเดือน เงินเดือนหรือตังค์ทอนกันแน่ก็ชักจะไม่แน่ใจเสียแล้ว วัฏจักรน่าสงสารเช่นนี้ย่อมทำให้มนุษย์เงินเดือนทั่วๆ ไป ไม่อาจหลุดจากวังวนความคิดเดิมๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมคิดถึงการลงทุน

หากมนุษย์เงินเดือนคนนั้นได้ตะโกนร้องขอถึงพลังจักรวาลในฟ้ากว้างใหญ่ได้อย่างที่เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะจินตนาการถึง สัมผัสถึง ขุมสมบัติ พลังทางการเงินที่อาจสามารถช่วยให้เขาเอื้อมถึงการลงทุนและทำมันได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนเองสักบาทเดียว? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

เลิกคิดได้แล้วว่า ไม่อยากลงทุน เพราะเราไม่มีทุน  เลิกคิดเล็กแล้วคิดให้ใหญ่ คิดให้ปัง  ทำยังไงถึงจะมีเงินลงทุน ยินดีต้อนรับการลงทุนด้วยเงินคนอื่น หรือเรียกว่า OPM (Other People Money) เชิญพบอีกด้านของการเงินการลงทุนที่ ลงทุนได้ด้วยเงินหลักจากคนอื่น??

หากเคยได้ยินการล้มบนฟูกของคนรวยในยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ล้ม ที่เศรษฐีหลายๆ คนเศรษฐกิจล่มสลายบนเงินของคนอื่น โดยที่ตัวเขาเองไม่ได้ขาดทุนเลยแม้แต่น้อย คนรวยเขาทำกันยังไงนะ? มาดูหลักการของ OPM กันครับ

1.เข้าใจการเงินการลงทุนด้วยพลังของ OPM

คุณพบเห็นการทำ OPM เต็มไปหมดบนโลกธุรกิจในปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างดูคุ้นชินตา แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันคือหน้าที่หรือสิ่งที่ตัวเราเองสามารถที่จะทำได้เอง ลองดู “ธนาคาร” หากต้องการเก็บออมเงินให้นำไปฝากธนาคาร และในทางกลับกัน หากต้องการแหล่งเงินทุน คุณก็ย่อมคิดถึงธนาคารด้วยเช่นกัน

แต่คุณรู้ไหม? เงินที่ธนาคารรับจากบุคคลทั่วไปมาเก็บออม ธนาคารต้องจ่ายดอกเบี้ยซึ่งเป็นผลประโยชน์ให้กับผู้ออมด้วย ธนาคารจำเป็นต้องหารายได้จากการนำเงินออมเหล่านั้นมาบริหารด้วยการปล่อยสินเชื่อเงินกู้ คุ้นๆ ไหมครับ?

ธนาคารกำลังทำ OPM โดยรับเอาเงินจาก นาย A ไปให้นาย B ยืม โดย นาย A ได้รับคำสัญญาจากธนาคารว่าจะให้ดอกเบี้ย1% ต่อปีเป็นการตอบแทน และในขณะเดียวกัน นาย B ก็ต้องยอมจ่ายดอกเบี้ย 10%ต่อปี ให้แก่ธนาคาร เพื่อที่จะรับเงินก้อนไปลงทุนดำเนินธุรกิจ

2.หาขุมทรัพย์จากเหล่า VC เพื่อเป็นแหล่ง OPM

คุณพบว่าธุรกิจที่คุณทำสามารถสร้างกำไรให้กับเงินทุนที่คุณมีอยู่อย่างน้อยก็ 10% ต่อเดือน เมื่อคุณต้องการที่จะขยายกิจการ เพิ่มความก้าวหน้าให้กับกิจการ คุณจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติม แต่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยคิดถึงธนาคารก่อนเป็นประเด็นแรกเสมอ แต่การที่คุณสามารถติดต่อ แองเจิ้ลอินเวสเตอร์(angel investor) เพื่อติดต่อยืมเงินส่วนบุคคลนอกระบบกลับได้รับความนิยมมากกว่า

ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือเงินกู้นอกระบบนั่นเอง แน่นอนว่าหากคุณเดินตรงดิ่งไปกู้จากผู้ให้เงินกู้นอกระบบ มักจะต้องเสียดอกเบี้ยสูงกว่าสถาบันการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะดีกว่าไหม?

หากเราสามารถสะสมเงินทุนจากทุกๆ คนที่สนใจในตัวธุรกิจของเราเข้ามาก่อนเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนและปันผลคืน หรือที่เราเรียกมันว่า ระบบสหกรณ์  ที่นำเงินสมาชิกทุกคนเข้ามาเป็นเงินทุนก่อนแล้วจึงปันผลกำไรคืนกลับไปเป็นรายปีให้กับสมาชิก

ดังนั้นการดำเนินธุรกิจที่ต้องการแหล่งเงินทุนจากบุคคลรายย่อยทั่วไปย่อมต้องหาผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการด้านการเงินเหล่านี้ เรียกว่า ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital หรือเรียกย่อๆ ว่า VC )

ซึ่งในปัจจุบันการเข้าถึง VC เป็นไปได้ง่ายและรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากธุรกิจ Startup และระดมทุนผ่านเวป VC ลองเปิด Google แล้วค้นดูสิครับ

ดึง OPM มาหวดพลังทางการเงินให้สุดแรง

เมื่อคุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนแลดึงเอา OPM มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว หน้าที่ของคุณคือดำเนินธุรกิจให้สุดแรงเพื่อให้ผลประโยชน์งอกเงยขึ้นมาจากเงินทุนที่คุณ OPM มาให้ได้มากที่สุด

ส่วนแหล่ง OPM จะมีข้อตกลงในรายละเอียดก็ทำให้ได้รับผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ต้องเข้าใจแหล่งที่มาของ OPM ด้วยว่ามีธรรมชาติเช่นไร เช่น หากคุณ OPM มาจากธนาคาร คุณต้องคำนวณรายจ่ายผ่อนรายงวดให้เพียงพอ

หรือหากคุณ OPM มาจากเหล่า VC คุณก็ต้องเข้าใจธรรมชาติ การออก(exit) ของ VC ซึ่งมักจะออกหลังจากทำกำไรได้พอสมควรแล้ว เป็นต้น

หมดเวลารอคอยเพื่อสะสมเงินทุนเพื่อขยายกิจการ ธุรกิจทุกวันนี้รอไม่ได้ ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่จะชนะธุรกิจเล็กเสมอไป หากธุรกิจบางประเภทความรวดเร็วกลับทำให้ธุรกิจเล็กรุมกินโต๊ะบริษัทใหญ่จนพ่ายก็มีให้เราได้พบเห็นกันเสมอโนโลกธุรกิจปัจจุบัน

คุณล่ะ จะ OPM เพื่อให้ธุรกิจของคุณติดปีกโบยบินไปในโลกธุรกิจได้อย่างไร ผมเชื่อว่ามาถึงบรรทัดนี้แล้ว ไม่แน่ว่า คุณอาจยกหูเพื่อติดต่อเหล่า Venture Capital สักที่เพื่อเริ่มทำ OPM แล้วก็ได้

เรียนรู้การลงทุนสไตล์ Jenk Za