การเปิดกิจการร้านอาหารเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจเอาเป็นมากๆ และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกเป็นเจ้าของกิจการ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมครับว่า ถึงแม้ว่าการเปิดกิจการร้านอาหารจะได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ แต่ร้านอาหารก็อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ปิดตัวลงอย่างรวดเร็วเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน

และจากการสำรวจถึงแม้ว่าร้านอาหารหลายที่จะได้รับความนิยมมากๆ ตอนเปิดกิจการในช่วงใหม่ๆ และดูท่ากิจการจะไปได้สวย แล้วทำไมร้านอาหารเหล่านั้นถึงเจ๊งไม่เป็นท่าแบบนั้นล่ะ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันครับ เราไปดูกันเลยดีกว่าครับว่าสาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมแต่จู่ๆ กลับเจ๊งไม่เป็นท่ามีอะไรกันบ้าง

ไม่มีการแยกบัญชีร้านอาหารและบัญชีส่วนตัว

ปัญหาอันดับแรกเลยก็คือ การที่เราใช้จ่ายเงินร่วมกันทั้งเรื่องของร้านอาหารและค่าใช่จ่ายเรื่องส่วนตัวโดยที่ไม่มีการแยกบัญชีออกเป็นส่วนๆ อย่างชัดเจนนั่นเองครับ ถึงแม้ว่าร้านอาหารจะเป็นของเรา เงินที่หามาได้ก็เป็นของเรา และการที่เราใช้จ่ายเงินที่เราหามาได้ย่อมเป็นสิทธิ์ของเรา แต่ทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดที่ผิด และผิดเอามากๆ ด้วยครับ เพราะหากเราไม่แยกบัญชีการใช้จ่าย เราก็จะไม่รู้เลยว่าเราใช้จ่ายไปกับร้านอาหารเท่าไหร่ ใช่จ่ายไปกับเรื่องอะไรบ้าง และใช้จ่ายในเรื่องส่วนตัวไปเท่าใด ทำให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไม่คงที่ซึ่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความพอใจในการใช้จ่ายของเรา ทำให้ไม่สามารถที่จะตรวจสอบย้อนหลังได้ ทีนี้ก็เตรียมตัวพังซิครับ ถ้าเงินหมด…

ไม่มีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

นอกจากจะไม่แยกบัญชีร้านอาหารกับบัญชีส่วนตัวแล้ว ยังไม่มีการทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายอีก ทีนี้คำว่า “เจ๊ง” ก็เดินเข้ามาหาเราเพิ่มอีกหนึ่งก้าวแล้วล่ะครับ เพราะว่าหากเราไม่มีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้วล่ะก็ เราก็จะไม่รู้ว่าเราใช้ลงทุนไปกับอะไรบ้าง ใช้จ่ายไปแล้วเท่าไร รายได้ที่ได้เพียงพอกับรายจ่ายที่ต้องจ่ายหรือเปล่า ถ้าหากไม่มีการทำบัญชีเราจะไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้แน่นอน แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ ทั้งๆ ที่รายได้กิจการก็ดูทำกำไรและไปได้ดี แล้วเงินที่หามาหายไปไหนหมด

ขาดระบบการจัดการและการบริหาร

ระบบการจัดการและการบริหารถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพราะถึงแม้ว่าจะขายอาหารได้ดี แต่ถ้าไม่มีระบบการจัดการและบริหารที่ดีก็ยากที่กิจการของเราจะไปรอดได้ในระยะยาว ทำให้ร้านอาหารส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 60 ต้องปิดกิจการภายใน 1 ปี และร้อยละ 80 ของกิจการที่สามารถอยู่รอดได้นั้นก็ยังปิดตัวลงใน 3 – 5 ปี หากขาดการบริหารและการจัดการระบบที่ดี

ศึกษาธุรกิจหรือตลาดมากไม่พอ

ทำให้มีข้อมูลในการวิเคราะห์ความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ มีน้อย ทำให้ไม่เข้าใจกลไกของตลาดและกิจการที่ทำอยู่ หรือที่แย่ไปกว่านั้น หากไม่มีการศึกษาคู่แข่ง ไม่มีการสำรวจความต้องการของกลุ่มลูกค้าต้องการอะไร อะไรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขา และทำร้านอาหารประเภทซ้ำๆ โดยที่ไม่มีความแตกต่างจากคู่แข่งแล้วล่ะก็ก็ยากที่กิจการจะอยู่รอดได้ 

เลือกคนผิด และผิดที่เลือกคน

นอกจากระบบการจัดการและบริหารที่ดีแล้ว การเลือกจ้างคนก็เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสนใจ เพราะกิจการของเราจะไปได้ดี หรือจะเจ๊งก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาเช่นกัน เพราะเราไม่สามารถทำร้านอาหารคนเดียวได้ ดังนั้นเราจึงต้องคัดสรรบุคลากรที่ดีมีความสามารถมาช่วยงานในตำแหน่งต่างๆ ให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นแล้วร้านอาหารของเราก็จะไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้

 

ทำเลไม่ดีและการตั้งราคาอาหารไม่เหมาะสมหรือแพงจนเกินไป

การหาทำเลที่ตั้งร้านอาหารส่งผลอย่างยิ่งในการที่ลูกค้าจะเขามาใช้บริการของเรา นอกจากบรรยากาศที่น่านั่งแล้ว ยังรวมถึงสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรด หรือห้องน้ำ และที่ขาดไม่ได้เลยนอกจากอาหารที่อร่อยถูกปากและบรรยากาศดีๆ แล้วนั่นก็คือ ราคาที่เป็นมิตรนั้นเองครับ ร้านอาหารไม่ควรตั้งราคาอาหารแพงจนเกินไป ถึงแม้ว่าอาหารจะอร่อย แต่ลูกค้าก็สามารถเลือกร้านที่ราคาเป็นมิตรมากกว่าจากร้านคู่แข่งได้เหมือนกัน

การดูแลเอาใจใส่ลูกค้า

อย่าลืมนะครับว่าธุรกิจร้านอาหารเป็นที่นิยมในการเปิดกิจการ ดังนั้นร้านอาหารส่วนใหญ่จึงแข่งขันกันที่ราคาและการบริการลูกค้าเป็นหลัก ถ้าหากเราสร้างความประทับใจให้ลูกค้าไม่ได้ อย่างน้อยเราก็ไม่ควรทำร้ายตัวเองโดยการไม่ง้อลูกค้านะจ๊ะ

 ตัวเราเอง

นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงเป็น “ตัวเราเอง” นี่ล่ะครับ ซึ่งลักษณะของเจ้าของกิจการที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้ร้านอาหารเจ๊งไม่เป็นท่าเลยก็คือ “คนที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร แต่ไม่อยากทำร้านอาหาร” กับ “คนที่เป็นเจ้าของร้านอาหารและทำทุกอย่างเองคนเดียว” เพราะอะไร คนทั้ง 2 ประเภทนี้ถึงทำให้ร้านอาหารเจ๊งล่ะ

นั่นก็เพราะว่าหากเราไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปดูแลร้าน หรือเป็นเจ้าของกิจการแต่ไม่อยากทำร้านอาหาร โดยใช้การจ้างผู้จัดการร้านเข้ามาช่วยดูแลจัดการระบบทั้งหมดแล้วละก็ กิจการของเราไม่รอดแน่ๆ ไม่ใช่ว่าผู้จัดการไม่เก่งนะครับ แต่เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าร้านอาหารของเรามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง จะต้องแก้ปัญหาและหาทางป้องกันอย่างไร ถึงแม้ว่าตอนนี้กิจการของเราจะไปได้ดี แต่อย่ามัวยึดติดกับความสำเร็จอะไรเดิมๆ นะจ๊ะ ถ้าจู่ๆ ผู้จัดการหรือพนักงานเกิดพากันลาออกขึ้นมา ทีนี้ละ จบเห่แน่ๆ

และอีกเจ้าของกิจการอีกประเภทก็คือ ทำทุกด้วยตัวเองทั้งหมด ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ จริงอยู่ว่าการที่เจ้าของร้านเข้ามามีบทบาทในการทำร้านอาหารเองนั้นย่อมมีผลดี แต่ก็ใช่ว่าเราจำเป็นที่จะต้องทำทุกอย่างทั้งหมดเองนี่ครับ ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะเอาเวลาที่ไหนไปคิดต่อยอดแผนธุรกิจร้านอาหารของเราล่ะจริงไหม อย่าลืมนะครับว่าทุกธุรกิจย่อมมีผู้แข่งขันเสมอ ดังนั้นเราต้องมีอะไรที่พัฒนาเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา

เห็นไหมครับว่าโลกธุรกิจไม่ได้สวยหรูและสวยงามอย่างที่คิด เจ็บจริง ร้องไห้จริง เสียเงินและขาดทุนจริงๆ แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้นะครับ ดังนั้น “ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เราจึงควรที่จะศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจ


จะเริ่มธุรกิจร้านอาหารอย่างไรไม่ให้เจ๊ง >> ดูรายละเอียด