เครียดจัง !!! ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี อยากทำแบรนด์ตัวเอง ตั้งต้นธุรกิจเองตัวเองก็อยากทำนะ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะไปรอดหรือเปล่า เพราะเราก็มือใหม่ ไม่เคยทำ ผลิตก็พอทำได้ แต่การตลาดการขาย บัญชี การเงินอีก โอ๊ย !! ปวดหัว

หรือว่าจะซื้อแฟรนไชส์มาทำจะได้ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์ ทำธุรกิจตัวเอง เพราะเจ้าของแฟรนไชส์เขาวางระบบช่วยเราทำตลาดอยู่แล้ว แต่ก็อีกนั่นแหละ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ใช่แบรนด์ของเรา กลุ้มใจจัง !!!

น่าจะมีเพื่อนๆ หลายคนกำลังสบสน กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกันใช่ไหม งั้นอย่างนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเราน่าจะ จะ “ลงทุนสร้างแบรนด์ธุรกิจตัวเอง หรือจะซื้อแฟรนไชส์ดี”

ข้อดีของการสร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง

  1. มีอิสระในการบริหารจัดการ สามารถสร้างระบบในการบริหารธุรกิจเองได้ สร้างเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนได้ มีความยืดหยุ่นสูง พลิกแพลงสูตร เมนู รูปแบบสินค้าหรือบริการต่างๆ ได้เอง คุณมีอำนาจในการตัดสินใจเพื่อธุรกิจของตัวเองได้ สามารถสร้างกำไรได้ไม่จำกัด เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และไม่ชอบเดินตามรอยใคร
  2. ไม่ต้องลงทุนสูง สำหรับคนทุนน้อย คุณไม่จำเป็นต้องคิดใหญ่ทำใหญ่จนเกินตัว คุณเริ่มต้นจากเล็กๆ แล้วค่อยๆ ต่อยอดจนไปเรื่อยๆ จนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ คงจะตัวอย่างให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
  3. ได้ความภาคภูมิใจ หลายคนอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากสร้างแบรนด์เอง เพราะอยากทำในสิ่งที่ตัวเองรัก มีความสุขกับการทำสิ่งใหม่ๆ หรือสิ่งที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน แค่คิดก็สนุกแล้ว….ยิ่งถ้าแบรนด์ของเราประสบความสำเร็จ มันคงน่าภาคภูมิใจมากเลยนะคะ

ข้อเสียของการสร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง

  1. ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ต้องสร้างระบบการบริหารจัดการเอง ต้องวางแผนธุรกิจเอง เพราะไม่มีใครเป็นแบบอย่าง หรือบอกว่าต้องทำ หนึ่ง สอง สาม ยังงัย หากคุณขาดความรู้ความเข้าใจในการทำธุรกิจ ก็อาจทำให้คุณไม่สามารถไปต่อได้
  2. ใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ อาจเสียเวลาลองผิดลองถูก โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก อาจต้องใช้เวลา บางทีอาจจะเจอ มาทีหลังดังกว่า (คู่แข่งนะ 555)
  3. เสียเปรียบผู้ที่เข้าตลาดมาก่อน สำหรับแบรนด์ใหม่ การจะเข้าสู่ตลาด การสร้างฐานลูกค้า ต้องแข่งกับแบรนด์ที่มาก่อนซึ่งมีฐานลูกค้า หรือเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ดังนั้นใครที่คิดจะสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองก็ต้องมีความอดทน มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความพร้อมเรื่องเงินด้วย (เพราะที่ว่าลงทุนน้อย มันอาจจะไม่น้อยแล้วก็ได้นะคะ)

ข้อดีของการซื้อแฟรนไชส์

  1. เริ่มธุรกิจได้ง่าย เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ มีรูปแบบการทำธุรกิจที่คุณสามารถนำไปใช้ได้เลย มีการฝึกอบรม สนับสนุนวัตถุดิบ อุปกรณ์ รูปแบบแพคเกจจิ้ง รูปแบบร้าน แทบจะไม่ต้องคิดอะไรเองเลย…
  2. ไม่ต้องลองผิดลองถูก คุณไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์ใหม่ ไม่ต้องทำการตลาดใหม่ เพราะแฟรนไชส์ต่างๆ มักจะเป็นที่รู้จักมาในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้ง่ายกว่า
  3. มีโอกาสอยู่รอดสูงหากเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ หรือเป็นบริษัทใหญ่ๆ สินค้าและบริการได้มาตรฐาน มีระบบการบริหารงานที่ดี ทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง และมีโฆษณาที่เข้าถึงผู้ชมจำนวนมากๆ ยิ่งทำให้สินค้าและบริการขายได้ง่ายขึ้น แบบนี้ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ไม่มีเจ๊งแน่นอน
  4. เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายธุรกิจแฟรนไชส์มีการร่วมมือกับสถาบันการเงินในการปล่อยกู้เพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ คุณสามารถติดต่อสอบถามจากทางเจ้าของแฟรนไชส์ได้ หรือเวลาติดต่อขอสินเชื่อ ก็มีโอกาสอนุมัติสูงกว่าธุรกิจส่วนตัวที่สร้างเอง

ข้อเสียของการซื้อแฟรนไชส์

  1. ไม่มีอิสระเต็มที่ในการจัดการธุรกิจ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสูตร ราคา โปรโมชั่น หรือรูปแบบการดำเนินงานอื่นๆ ได้ตามใจคุณ เพราะต้องทำตามกฎหรือเงื่อนไขของแฟรนไชส์นั้นๆ บางครั้งอาจจะเสียความคล่องตัว หรือเสียโอกาส
  2. ต้องเสียค่าแฟรนไชส์ คุณต้องเสียค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ และค่าจัดการต่างๆ ก่อนเริ่มกิจการ โดยที่ยังไม่แน่ใจว่ากิจการจะมีกำไร จะรุ่งหรือจะรอดแค่ไหน
  3. กำไรน้อยหรือกำไรลดจากการลงทุน บางธุรกิจอาจมีการเรียกเก็บรายปี เปอร์เซ็นต์ยอดขาย ค่าโฆษณาทำการตลาด ทำให้กำไรลดลง หรือบางธุรกิจกำหนดให้คุณต้องตกแต่งร้านใหม่ ตามเวลาที่ครบกำหนด ทำให้ต้องลงทุนเพิ่ม ดังนั้นคุณ ควรต้องศึกษา และทำความเข้าใจกับเงื่อนไขอย่างละเอียด
  4. เสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียงโดยสาขาอื่น ในธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีหลายสาขา บางครั้งสาขาอื่นเกิดเรื่องที่ทำให้เสียชื่อเสียงก็ อาจจะกระทบมาถึงสาขาคุณด้วย แม้ว่าจะไม่ได้เกิดจากสาขาของคุณก็ตาม โดยเฉพาะในยุคโซเชียลที่ข่าวสารไปถึงผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ก็อาจจะเป็นความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เลือกได้แล้วใช่ไหมคะ !! ว่าจะไปทางไหนดี ซ้ายหรือขวา ทำแบรนด์หรือซื้อแฟรนไชส์ ทุกทางมีทั้งข้อดีและข้อด้อย อยู่ที่ว่าเราชอบแบบไหน รับความเสี่ยงในแต่ละด้านได้มากน้อยขนาดไหนนะ รักทางไหนเดินไปทางนั้นให้สุด นี่น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้เราค่อยก้าวย่างไปอย่างเติบโตในอนาคต

ตลอดเส้นทางในชีวิตจริงของธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน จะมีอุปสรรค์ ความท้าทายมาวัดใจคุณตลอดเส้นทาง จากอุปสรรค์เล็ก สู่ปัญหาที่ใหญ่มากยิ่งขึ้น และแน่นอนทีเดียว ทุกอุปสรรค์ปัญหาที่เราเอาชนะผ่านไปได้มันก็ทำให้เราได้เก่งขึ้น แกร่งขึ้นอย่างแน่นอน

เมื่อเลือกได้แล้วก็ไม่ต้องรีรอแล้วละ คงต้องได้เวลาลงมือทำแล้ว….

เรียนไปก็แค่นั้น เลือกได้แล้วว่าไปทางไหนก็แค่นั้น ถ้าไม่ลงมือทำมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

No Action ,No Result


บทความโดย ผู้เข้ารับการอบรมโครงการ “เปลี่ยน Content ให้เป็นเงิน รุ่น 1

คุณ ศิรินทร์ธร มณีโชติ (ปุ้ย)