ก่อนกวนอูยกทัพขึ้นเหนือเพื่อบุกวุยก๊ก เขาได้วางระบบป้องกันความปลอดภัยเอาไว้

เพื่อป้องกันพวกง่อก๊กตีเมืองเกงจิ๋ว นวัตกรรมในยุคนั้นคือ “หอสัญญาณเพลิง

เจ้านวัตกรรมใหม่นี้ทำงานง่ายๆครับ ประสิทธิภาพเยี่ยมด้วยทำให้ลิบองแม่ทัพง่อก๊กเครียดมาก ไม่กล้าบุ่มบ่ามบุกเกงจิ๋วหากข้าศึกบุกพวกยามที่ประจำสัญญาณไฟจะจุดไฟสัญญาณ เมื่อหอที่สองเห็นสัญญาณไฟ หอที่สองก็จะจุดทันที หอที่สามเห็นสัญญาณไฟรับช่วง ทุกหอทำแบบนี้จะส่งสัญญาณได้เร็วกว่าการส่งข่าวโดยม้าเร็ว เพียงไม่นานกวนอูก็จะทราบข่าวและยกทัพมาตีกระหนาบทันที

ในการรบแบบโบราณสัญญาณเตือนภัยดังกล่าวถือว่าเยี่ยมมาก ทว่าระบบที่ดีขนาดนี้เหตุใดจึงทำให้เมืองถูกยึด

หากให้อธิบายแบบสมัยใหม่คือ Human error หรือความผิดพลาดของผู้ปฎิบัติงาน ระบบนี้จะมีประสิทธิภาพเมื่อมีการจุดไฟในแต่ละหอสัญญาณ แต่อย่าลืมว่าไอ้ที่จุดไฟคือ “คน” หรือผู้ปฎิบัติงาน หากไม่มีคน หอสัญญาณย่อมไร้ประโยชน์

ลิบองและเหล่าทหารจึงแสร้งปลอมตัวเป็นพ่อค้า ทำทีมาขอหลบฝนใกล้หอสัญญาณ ครั้งแรกๆทหารในหอสัญญาณก็ไม่ยอม ครั้นลิบองจึงหยิบยื่นสินน้ำใจให้กับคนเหล่านั้นเป็นเงินเพียงไม่กี่ตำลึง เหล้าไม่กี่ไห ทหารเหล่านั้นก็รับสินน้ำใจด้วยความยินดี ปฎิบัติหน้าที่ความประมาท หละหลวม ความผิดพลาดเกิดขึ้นตรงนี้แหละครับ

พอพวกลิบองจอดเรือได้ก็รีบยกพลบุกยึดหอสัญญาณไฟปานสายฟ้าฟาด หอแรกถูกทำลายอย่างเงียบสนิท หอสัญญาณไฟอื่นๆไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น กว่าจะรู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงก็ถูกบุกอย่างรวดเร็ว ไม่ทันแม้แต่จะจุดไฟสัญญาณ

สุดท้ายนวัตกรรมของกวนอูก็พังพินาศ เมืองเกงจิ๋วถูกยึดอย่างง่ายดาย เพียงเพราะเงินไม่กี่ตำลึงและเหล้าไม่กี่ไห ความผิดพลาดนี้เป็นสิ่งที่กวนอูคาดไม่ถึง บทเรียนความผิดพลาดของกวนอูในตอนนี้ จึงเป็นบทเรียนในเรื่อง Human error ได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก > อ.เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป